ประกาศ!! กฎหมายใหม่ 2023 บังคับใช้ 'คาร์ซีท'

อัปเดตเมื่อ 4 ต.ค. 2566

17 ส.ค. 66 เตรียมบังคับใช้กฎหมาย 'คาร์ซีท'

(Car Seat) เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่คุณพ่อ-คุณแม่ไม่ควรมองข้าม จะเห็นได้จากหลายเหตุการณ์ที่รถเสียหลักหรือประสบอุบัติเหตุ แล้วเด็กๆ มักจะกระเด็นออกมานอกรถ หรือได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก จึงทำให้ภาครัฐเตรียมบังคับใช้กฎหมาย "คาร์ซีท"

ผู้ขับขี่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลาขณะที่ขับรถ
ผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้าหรือเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่โดยสาร
ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท หรือมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่จะเกิดอุบัติเหตุ
ผู้โดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซ็นติเมตรต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่โดยสารไม่ว่าจะนั่งเบาะหน้าหรือเบาะหลัง หรือมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ถ้าผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยจะได้รับการยกเว้น แต่ต้องมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุด้วย

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด: คาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ขวบ แบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ 'แบบกระเช้า' (Rearward facing baby seat) เป็นคาร์ซีทที่นั่งหันหน้าไปด้านหลังของรถ เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 18 เดือน และ 'แบบปรับหันหน้า-หลังได้' (Combination Seat) คาร์ซีทแบบนี้สามารถปรับให้นั่งหันหน้าเด็กได้ทั้งหน้ารถและหลังรถ ทั้งยังใช้สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 4 ขวบได้เลย

คาร์ซีทเด็กเล็ก: เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 9 เดือน - 4 ขวบ

คาร์ซีทบูสเตอร์: เป็นคาร์ซีทที่มีเบาะเสริมแบบ Booster ช่วยให้รู้สึกสบาย แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1. แบบมีที่กั้นด้านหน้า พนักพิงพร้อมเบาะรองนั่ง เหมาะสำหรับเด็ก 1 ขวบถึง 12 ปี 2. แบบมีพิงและเบาะรองนั่ง (High Backed Booster Seat) เหมาะสำหรับเด็ก 3 ขวบถึง 12 ปี และ 3. แบบมีเฉพาะเบาะรองนั่ง เหมาะสำหรับเด็ก 5 ขวบถึง12 ปี

ควรเลือกคาร์ซีทที่เหมาะกับช่วงวัยและสรีระของลูกน้อย ซึ่งนอกจากจะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ แล้วควรคำนึงถึงความสบายของลูกๆ ถอดซักง่าย ระบายอากาศดี สำคัญสุดเด็กอ่ายุไม่ถึง 2 ขวบต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหลังให้คนขับเท่านั้น! เพราะกระดูกคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทก หรือการเบรกแรงๆ ได้

ไม่ควรใช้ 'คาร์ซีทมือสอง'

นอกจากความคุ้มค่าและประหยัดกว่าคาร์ซีทมือหนึ่ง ซึ่งใครที่วางแผนจะซื้อคาร์ซีทใหม่ก็ควรเลือกให้เหมาะกับวัย สรีระ ลักษณะการใช้งาน รวมถึงคาร์ซีทที่เหมาะกับรถยนต์ของครอบครัว แต่สำหรับคนที่คิดจะซื้อคาร์ซีทมือสองที่ไม่รู้ว่า คาร์ซีตเคยผ่านการใช้งานหนักหน่วงขนาดไหนมาบ้าง? ควรพิจารณาประเด็นเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อ หรือแม้แต่คาร์ซีทที่ได้มาจากคนรู้จัก เพราะความปลอดภัยของลูกน้อยสำคัญกว่า

วัสดุอาจจะมีบางจุดที่ชำรุด เสียหาย หรือยุบตัวลง รวมถึงอาจโดนกระแทกแรงๆ แสงแดดทำร้ายบางชิ้นส่วนจนเปราะ แตก กรอบ หรืออยู่ในสภาพไม่พร้อมสำหรับการใช้งาน
คาร์ซีทมือสองอาจผลิตมาแล้วหลายปี ทำให้เทคโนโลยีและวัสดุบางอย่างที่อาจจะมีอะไหล่ซ่อมแซม เพราะเป็นรุ่นที่โรงงานเลิกผลิตไปแล้ว อีกทั้งคาร์ซีทรุ่นใหม่ๆ ย่อมได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและแก้ไขข้อบกพร้องต่างๆ มากขึ้น
ตรวจเช็กอายุการใช้งานตามที่โรงงานผลิตได้แจ้งไว้เสียก่อน เพราะคาร์ซีทมือสองราคาถูกลงก็จริง แต่ประสิทธิภาพก็ลดลงเช่นกัน เพราะโรงงานผลิตได้ทำการทดสอบมาแล้วว่าคาร์ซีทที่ผลิตออกมาแต่ละรุ่นควรมีระยะเวลาในการใช้งานกี่ปีถึงจะเสื่อมสภาพ